เจอถนนที่มีน้ำท่วม ตัดสินใจอย่างไรดี? จะขับต่อดีหรือไม่ น้ำท่วมหนักแค่ไหนถึงไม่ควรขับรถต่อ
ปัญหาน้ำขัง น้ำท่วม พบได้บ่อยมากๆ ในช่วงหน้าฝน หรือช่วงที่มีพายุเข้า ฝนตกหนัก โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ถนนเส้นจรัญสนิทวงศ์, บางรัก – สี่พระยา – พระราม 4, สุขุมวิท ที่ไม่ว่าจะตกหนัก ตกเบาก็ท่วม จนต้องขับรถลุยน้ำอยู่บ่อยๆ วันนี้เรามีวิธีขับลุยน้ำให้ปลอดภัยมาฝาก มาดูกันว่า น้ำท่วมหนักแค่ไหนถึงไม่ควรขับรถต่อ เพราะถ้าขืนฝืนขับต่อมีหวังรถได้ดับก่อนถึงแน่นอน
ขับรถลุยน้ำระดับน้ำแค่ไหนถึงปลอดภัย
ถ้าหากจำเป็นจะต้องขับรถลุยน้ำ เพื่อความปลอดภัยแนะนำให้ดูระดับน้ำก่อน อย่าขับฝ่าไปเลย เพราะถ้าระดับน้ำสูงมากๆ เกิดอันตรายอย่างแน่นอน โดยระดับน้ำที่สามารถขับรถลุยน้ำได้อย่างปลอดภัย คือไม่ควรท่วมเกิน 30 เซนติเมตร ให้สังเกตจากฟุตบาทข้างทาง ปกติฟุตบาทจะมีความสูงประมาณ 20 เซนติเมตร หากระดับน้ำสูงกว่าฟุตบาทจนมองไม่เห็น แนะนำว่าให้เลี่ยงทางนั้นจะดีกว่า แต่ถ้าเป็นถนนที่ไม่มีฟุตบาทดูระดับน้ำจากล้อรถคันอื่นก็ได้ ถ้าระดับน้ำประมาณครึ่งล้อก็ยังพอขับรถลุยน้ำได้ แต่ถ้าสูงกว่านั้นไม่แนะนำเพราะเสี่ยงทั้งอันตราย และเสี่ยงน้ำเข้าเครื่องยนต์และท่อไอเสีย ระบบไฟช็อตและเครื่องอาจดับได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กันขนาดและความสูงของรถแต่ละคันด้วย
เทคนิค! ขับลุยน้ำอย่างไรให้ปลอดภัย
ขับด้วยความเร็วต่ำ
หากต้องขับรถลุยน้ำ ให้ชะลอความเร็วลง ขับด้วยความเร็วต่ำ เพื่อให้เกิดความมั่นคงไม่เสียการทรงตัว และควรรักษาความเร็วให้สม่ำเสมอ ไม่เร่งเครื่องหรือเปลี่ยนความเร็วกะทันหัน เพราะจะทำให้เกิดการตีกลับของกระแสน้ำ โดยเฉพาะเวลาที่ต้องขับสวนกับรถคันอื่นยิ่งต้องชะลอความเร็วให้มากกว่าเดิม
ใช้เกียร์ต่ำ
เมื่อขับรถลุยน้ำ ควรใช้เกียร์ต่ำเลี้ยงรอบให้นิ่งที่สุดประมาณ 1,500 – 2,000 รอบต่อนาที ถ้าเป็นเกียร์ออโต้ควรใช้เกียร์ L ส่วนเกียร์กระปุกควรใช้เกียร์ 2 เพราะการใช้เกียร์ต่ำ เป็นสภาวะที่เครื่องยนต์จะดับได้ยากที่สุด
ปิดแอร์รถยนต์ทันที
เวลาที่ต้องขับรถลุยน้ำ ควรปิดแอร์ เพราะจะช่วยลดระดับน้ำที่กระจายเข้าห้องเครื่อง เมื่อพัดลมแอร์ไม่ทำงานโอกาสที่น้ำจะเข้าไปในเครื่องก็จะน้อยลงด้วย ที่สำคัญถ้าระดับน้ำสูงๆ แล้วมีเศษขยะเยอะ ต้องระวังเศษขยะเข้ามาติดมอเตอร์พัดลม เพราะจะทำให้ระบบระบายความร้อนพังได้เช่นกัน
ควรย้ำเบรกหรือคลัตช์เพื่อไล่น้ำ
ระหว่างการขับรถลุยน้ำ สำหรับเกียร์ออโต้ควรเหยียบย้ำเบรกเพื่อทำการไล่น้ำออกจากระบบเบรก ส่วนเกียร์กระปุกให้เหยียบย้ำคลัตช์ เพื่อป้องกันคลัตช์ลื่น
รักษาระยะห่างจากคันหน้ามากกว่าปกติ
การขับรถลุยน้ำ หรือขับรถบนพื้นเปียก จะทำให้ประสิทธิภาพของผ้าเบรกลดลง ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ควรเว้นระยะห่างจากรถคันข้างหน้ามากกว่าเดิม 2-3 เท่า ป้องกันการเบรกไม่อยู่เพื่อความปลอดภัย
อย่ารีบดับเครื่องรถทันที
หากพึ่งขับรถลุยน้ำมา เมื่อถึงจุดหมายไม่ควรดับเครื่องทันที ควรจอดทิ้งไว้สักครู่เพื่อไล่น้ำที่อาจตกค้างอยู่ในหม้อพักท่อไอเสียระเหยออกมาให้หมดก่อน
แต่ทางที่ดีเลี่ยงเส้นทางที่น้ำท่วม หรือมีน้ำขังไปเลยน่าจะปลอดภัยที่สุด เพราะบางครั้งสีและความสกปรกของน้ำก็ทำให้เรามองไม่เห็นพื้นถนน ไม่รู้ว่าตรงไหน มีหลุมหรือมีบ่อหรือไม่ ยิ่งทำให้เกิดอันตรายได้ง่าย
เหนือสิ่งอื่นใดเพื่อเป็นการประกันความเสี่ยงในการขับขี่รถยนต์ การทำประกันรถยนต์ชั้น 1 จะช่วยทำให้สามารถขับขี่ได้อย่างอุ่นใจ เพราะมีประกันคอยดูแล ครอบคลุมทุกๆ การขับขี่ ใครที่กำลังมองหาประกันรถยนต์ที่คุ้มครองครอบคลุม ทุกปัญหา ประกันรถยนต์ชั้น 1 ถือว่าตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี รถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม ก็สามารถเคลมได้ สนใจสมัครประกันรถยนต์ผ่าน Rabbit Care รับไปเลยสิทธิพิเศษที่เหนือกว่า รวมถึงยังได้รับสิทธิ์ลุ้นรางวัลประจำเดือนอีกมากมาย เพียงเข้าไปที่ www.rabbitcare.com